ดิสนีย์แลนด์ แดนมหัศจรรย์ของเด็กน้อยและพ่อแม่

[เทาชมพู]

    นอกจากเอาการ์ตูนสั้นมาใส่ไว้ในหนังชุด Wonderful World of Disney  ให้เด็กๆเพลิดเพลินจนรบเร้าพ่อแม่ให้พาไปดิิสนีย์แลนด์แล้ว    ดิสนีย์ยังหัวไวพอจะผลิตรายการบันเทิงสำหรับเด็ก   และต่อมาด้วยภาพยนตร์สำหรับเยาวชนออกมาอีกมากมาย  ทั้งที่ฉายในโรงใหญ่ และเป็นภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์  เรียกได้ว่าเขาเป็นนักธุรกิจบันเทิงคนแรกๆ เอาเด็กมาเป็นตัวชูโรง
    ยุคนั้นเป็นยุคที่เบเบี้บูมเมอร์หรือเด็กหลังสงครามโลกโตขึ้นเข้าโรงเรียนพอดี    พ่อแม่ที่มีลูกตอนหลังสงคราม มีชีวิตที่ค่อนข้างดี เพราะเศรษฐกิจดี  บ้านเมืองสงบ  ก็มีเวลาเอาใจใส่ลูกๆได้เต็มที่ รายการทีวีสำหรับเด็กจึงเป็นที่นิยมกันทั้งบ้านไม่เฉพาะแต่ลูกๆเท่านั้น   เช่นรายการ Mickey Mouse Club
    ฮอลลีวู้ดเลือกหนุ่มหล่อสาวสวยมาเป็นตัวเอกทำเงิน   แต่ดิสนีย์เลือกเด็กน้อยที่ร้องเล่นเต้นรำเก่งมาเป็นทรัพยากรมีค่าของเขา   เด็กพวกนี้พอโตเป็นวัยรุ่น ก็เรียกแฟนยุคเบบี้บูมเมอร์ที่โตขึ้นเป็นวัยรุ่นทันกัน ให้แห่กันมาเป็นแฟนคลับอย่างล้นหลาม

[เทาชมพู]

นอกจากนี้ ดิสนีย์ยังผลิตหนังชุดประเภทผู้ใหญ่ดูได้ เด็กดูดีออกมาอีกหลายชุด   เช่น Davy Crockett จากเรื่องจริงของวีรบุรุษพื้นเมืองของอเมริกา ในยุคที่อเมริกายังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ

[เทาชมพู]

    ในทศวรรษ 1950s  หนังทีวีเรื่องยาวเป็นตอนๆที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือหนังคาวบอย   ควบม้ายิงกันสนั่นจอ    เด็กน้อยเบบี้บูมเมอร์ทั้งหลายใฝ่ฝันจะสวมหมวกปีกกว้าง มีชุดคาวบอยและเข็มขัดปืนสองกระบอกคาดเอว ไปตามๆกัน   
   แต่วอล์ต ดิิสนีย์ไม่เอาอย่างกระแส  เขาแหวกวงออกไปด้วยการสร้างหนังชุด แบบไม่ใช่สำหรับเด็กอีกต่อไป  เป็นแบบผู้ใหญ่ดูดีและเด็กดูได้ขึ้นมา  คือหนังชุด Zorro  วีรบุรุษลึกลับสวมหน้ากากของอเมริกา  สมมุติเหตุการณ์ย้อนไปในยุค 1820  แต่ละตอนซอร์โรปราบเหล่าร้าย ก่อนจะควบม้าหายลับไปแบบไม่มีใครแกะรอยได้ว่าเป็นใครภายใต้หน้ากากสีดำ
    ก็อย่างที่ถนัด คือเขาก็เอาร่องรอยของซอร์โรมาใส่ไว้ในดิสนีย์แลนด์   ให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายได้ระลึกถึง  และเกื้อหนุนเศรษฐกิจของดิสนีย์แลนด์ด้วย
 
   
   

[เทาชมพู]

[เทาชมพู]

 หัวธุรกิจของศิลปินอย่างวอลต์ อยู่ที่ว่าเขาสามารถทำให้งานศิลปะเป็นเงินเป็นทองขึ้นมาได้     ดิสนีย์แลนด์ในแต่ละยุคคือสถานที่สร้างฝันให้เป็นจริงสำหรับเด็ก  พ่อแม่ก็พลอยสนุกไปด้วย
  เมื่อเขาสร้างการ์ตูน Peter Pan ขึ้นมา  เด็กน้อยทั้งหลายต่างก็อยากเหาะได้อย่างปีเตอร์ แพน    ไม่เป็นไร ทำได้ไม่ยาก  ในดิสนีย์แลนด์ก็จัด Peter Pan Flight  รถบิน ให้เหาะเหินผ่านไปตามห้องต่างๆ เห็นหุ่นตัวการ์ตูนมายืนต้อนรับ   ราวกับเข้าไปในหนังการ์ตูนจริง   มองลงไปเบื้องล่างเห็นบ้านเรือนอยู่ต่ำลงไป   เห็นเกาะ Neverland อยู่เบื้องล่าง  เหมือนกำลังเหาะเหินเดินอากาศไปกับปีเตอร์ แพน จริงๆ

[เทาชมพู]

  ผลงานของดิสนีย์ไม่ได้มีแค่สวนสนุกและรายการทีวี    ภาพยนตร์สำหรับครอบครัวก็ผลิตออกมาไม่ขาดสาย ตั้งแต่ยุค 1950s มาจนถึงปัจจุบัน     แนวหลักคือเป็นภาพยนตร์เบาๆ สนุกๆ ไร้พิษภัย   มีทั้งการ์ตูนและหนังธรรมดาๆ   ส่วนใหญ่ในทศวรรษ 60 70 80 เป็นหนังเล็กต้นทุนต่ำ  แต่กำไรสูง    ทั้งหมดนี้ช่วยหนุนให้กิจการของสวนสนุกเดินหน้าไปไม่หยุดยั้ง
   ดิสนีย์ตัดสินใจขยายดิสนีย์แลนด์ของเขาออกไปสู่รัฐอื่น    แห่งที่สองคือ Disney World ที่รัฐฟลอริดา  มีขนาดยักษ์ ราวกับเมืองหนึ่งเมือง  จากนั้นก็ข้ามไปตั้งยูโรดิสนีย์ที่ยุโรป   ก่อนจะข้ามมหาสมุทรแปซืฟืกมาที่โตเดียว   แล้วก็ฮ่องกง กับเซี่ยงไฮ้  เป็นการขยายอาณาจักรไปทั้งทางตะวันตกและตะวันออก 

[เทาชมพู]

ส่วนหนึ่งของความอลังการในดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง คือการจุดพลุ และเล่นแสงสีกับปราสาทที่ตอนนี้เปลี่ยนโฉมใหม่ แต่ก็ยังเป็นปราสาทอยู่

[เทาชมพู]

 ดิสนีย์แลนด์ทุกแห่งมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ     ไม่ย่ำซ้ำของเดิมที่จะนำความเสื่อมโทรมและตกยุคมาให้   พอการ์ตูนหรือหนังดิสนีย์เรื่องไหนดัง   เครื่องเล่นตลอดจนอาคารร้านรวงบางส่วนก็ปรับปรุงใหม่  ทำใหม่รับความฮิทของหนังเรื่องนั้น   
  เช่น Little Mermaid  ดัง ดิสนีย์ก็ทำห้องของเงือกน้อยแอเรียล  เป็นห้องอุโมงค์ต่อเนื่องกันไป ให้นักท่องเที่ยวนั่งรถเลื่อนผ่านไปชมแต่ละห้อง  มีหุ่นเงือกน้อยและเจ้าชายมายืนต้อนรับ

[เทาชมพู]

     ความฉลาดในการวางแผนอีกอย่างคือแต่ละดินแดนในแต่ละประเทศ มีเครื่องเล่นแตกต่างกันไป    ในอาณาเขตใหญ่อย่างดิสนีย์เวิร์ลด์ที่ฟลอริดา  มีเนื้อที่ใหญ่โตมโหฬารพอจะสร้างแดนที่ต้องอาศัยเนื้อที่กว้างมาก  อย่างแดนผจญภัยไดโนเสาร์   ในดินแดนประเทศอื่นที่มีเนื้อที่แคบกว่านี้ ก็จะตัดตอนเอาบางส่วนเท่านั้นมาลง ตามความจำกัดของเนื้อที่
     ทั้งนี้เพื่อให้คนดูไม่เบื่อหน่ายว่าดูอะไรซ้ำๆกัน   เมื่อดูที่นี่แล้ว ก็จะได้ตามไปดูที่โน่น   และที่นู่น ต่อไปอีกไม่รู้จักจบ  กว่าจะครบทุกแดน(ซึ่งเปลืองเงินมาก) ลูกก็โตเป็นหนุ่มสาววัยทำงานพอดี   ไม่ต้องไปดูอีก
    ไดโนเสาร์ฮิท  ก็มาดูไดโนทั้งหลายกันค่ะ

[เทาชมพู]

ของใหม่ในดิสนีย์แลนด์

[เทาชมพู]

    บริษัทดิสนีย์เคยสร้างการ์ตูนเรื่อง  The Sword in the Stone เมื่อปี  1963  เป็นตำนานของพระเจ้าอาเธอร์แห่งอังกฤษ สมัยยังเป็นเด็กเล็ก   ว่าด้วยดาบวิเศษที่เสียบอยู่ในหินมาหลายศตวรรษแล้ว   มีตำนานว่าถ้าใครดึงดาบขึ้นมาได้จะได้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน  แต่ก็ไม่เคยมีใครทำได้ จนเด็กน้อยชาวบ้านธรรมดาๆคนหนึ่งดึงขึ้นมาได้  ต่อมาเขาก็เติบโตขึ้นเป็นพระเจ้าอาเธอร์
    เรื่องนี้จะว่าไปก็ไม่ประสบผลสำเร็จนัก ถ้าเทียบกับการ์ตูนก่อนๆอย่าง Snow White  และ Cinderella  แต่ดิสนีย์ก็ฉลาดพอจะไม่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ถูกลืม   แต่นำมาสร้างไว้ในดิสนีย์แลนด์  เป็นแท่นหินที่มีดาบเสียบอยู่เหมือนในเรื่องการ์ตูน  ให้เด็กๆทดลองดึงขึ้นมาดู   กลายเป็นเครื่องเล่นสนุกสนานอย่างหนึ่งของสวนสนุก ที่ทั้งผู้ใหญ่และเด็กผ่านมาแล้วจะต้องดึงกันอุตลุด

[เทาชมพู]

[เพ็ญชมพู]

น่าจะมีผู้ดูแลคอยกดปุ่มควบคุมอยู่

[เทาชมพู]

รูปแบบของการท่องเที่ยวในดิสนีย์แลนด์มีหลายแบบ  เช่นเดินชมสถานที่ แวะตรงโน้นตรงนี้   นั่งรถไฟ นั่งเรือ  และ rides
คำหลังนี้หมายถึงว่า ในโรงแต่ละโรงที่ดิสนีย์แลนด์จัดให้มีฉากจากหนังการ์ตูนให้คนได้ชมกัน  เขาจะจัดเรือหรือรถเล็กๆเปิดหลังคาให้คนลงไปนั่ง เลื่อนไปตามราง   ชมหุ่นเคลื่อนไหวสองข้างทางจนกระทั่งจบตรงปลายทาง
หนึ่งใน rides ที่ดังที่สุด อยู่ยงคงกระพันที่สุดนับแต่เปิดสวนสนุกมาจนบัดนี้ คือ It's A Small World  เป็นการนั่งเรือชมหุ่นตุ๊กตาเคลื่อนไหว แต่งกายของคนในประเทศต่างๆ ทั่วโลก พร้อมกับเปิดเพลง It's A Small World ไปตลอดทาง
นักท่องเที่ยวไทยที่มีโอกาสไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ก็จะคอยจ้องว่าเมื่อไหร่จะถึงประเทศไทย    แล้วก็เห็นได้จริงๆ
รายการอื่นๆของดิสนีย์ปรับเปลี่ยนไปตามสมัยนิยม  แต่รายการนี้ยังอยู่ เพิ่มความอลังการขึ้นตามยุคด้วย

[เทาชมพู]

เมื่อหนัง Pirates of the Caribbean ดังขึ้นมา  ดิสนีย์แลนด์ก็มีฉากต่างๆพร้อมหุ่นเคลื่อนไหวให้ชมกัน